ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี

ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี เลขที่ 63 หมู่ 6 ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี 22110

ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี ได้ดำเนินงานโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรมากกว่า 10 ปี และที่ผ่านมาพบว่า ในแต่ละปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกว่า 10,000 ราย เนื่องจากศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรีมีความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืชและมีบรรยากาศร่มรื่นทิวทัศน์สวยงาม จึงมีส่วนสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี

          ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี มีพื้นที่ภายในทั้งหมด 206 ไร่ เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่ความรู้ทางด้านวิชาการเกษตร ควบคู่ไปกับการดำเนินงานโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร เนื่องจากมีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม และมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน แล้วยังเป็นแหล่งรวบรวมความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดจันทบุรี และยังมีแปลงรวบรวมความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียนมากกว่า 100 สายพันธุ์

การเดินทางสะดวก ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท เส้นทางสายจันทบุรี-ตราด ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีเพียง 15 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 269 กิโลเมตร

ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี
ที่อยู่: เลขที่ 63 หมู่ 6 ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี 22110
โทร :0-3939-7030, 0-3939-7146
โทรสาร : 0-3939-7236
E-mail : chrc@ksc.th.com
Facebook : https://www.facebook.com/chrc.chanthaburi/
Website :  http://www.doa.go.th/hrc/chantaburi

 

ปฏิทินการท่องเที่ยวประจำปี

กิจกรรมช่วงเวลาที่เหมาะสมรูปแบบ
ชมสวน ดูนก สัมผัสความหลากหลายทางธรรมชาติตลอดปีดินชมสวนผลไม้ ดูนกที่มีอยู่อย่างมากมาย เช่น นกเขา นกเอี้ยง ได้ตามเส้นทางท่องเที่ยว โดยมีมัคคุเทศก์บรรยายให้ความรู้ และยังสามารถนั่งรถพ่วง (ติดต่อล่วงหน้า) หรือขี่จักรยาน (มีให้เช่า)
เทศกาลดอกไม้บานพฤศจิกายน
ถีง
มีนาคม
ชมธรรมชาติการออกดอกของไม้ผลเศรษฐกิจ ทุเรียน มังคุด เงาะ ท่านจะได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกเงาะและดอกทุเรียน และความมหัศจรรย์ของพฤติกรรมการออกดอกของทุเรียน
เก็บชิมผลไม้พฤษภาคม
ถึง
กรกฎาคม
เก็บชิมผลไม้ตามเส้นทางท่องเที่ยว ภายใต้การนำของมัคคุเทศก์ หรือเตรียมผลไม้ไว้ให้ชิม
ชิมทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองพฤษภาคมชิมทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กบมังกร กบทองคำ กบสุวรรณ ฝอยทอง และชายมังคุด เป็นต้น
Walk rallyตลอดปีบุคคลภายนอกหรือหน่วยงานต่างๆ สามารถใช้สถานที่ตามเส้นทางท่องเที่ยวจัดกิจกรรม Walk rally ได้ โดยต้องติดต่อล่วงหน้า
wedding areaตลอดปีสถานที่ภายในศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี สวยงามเหมาะกับการเข้ามาถ่ายภาพแต่งงาน

กิจกรรมในศูนย์ท่องเที่ยว

เส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติเลียบคลองหนองเสม็ด บรรยากาศร่มรื่นด้วยพรรณไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผลหลากหลายชนิด แล้วยังสามารถเก็บชิมผลไม้ได้อีกด้วย


ระหว่างเส้นทางเดินเท้าจะได้พบกับศาลาร่มไม้ชายน้ำ อยู่ท่ามกลางหมู่พืชสกุลระกำไร้หนามที่เรียกว่า “สะกำ” และจุดชมวิวที่สามารถสัมผัสบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำสาธารณะหนองเสม็ด และธรรมชาติของเทือกเขาสระบาป


เที่ยวชมแปลงไม้ผลเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรีหลากหลายชนิด เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง รวมถึงพืชสมุนไพร เช่น พริกไทย


เที่ยวชมแปลงโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งรวบรวมสายพันธุ์พืชสกุลทุเรียนไว้มากกว่า 100 สายพันธุ์ เช่น กบสุวรรณ กบแม่เฒ่า กบสีนาค เขียวตำลึง จอกลอย นมสวรรค์ กะเทยเนื้อขาว ฝอยทอง ชายมังคุด หมอนข้าง และอีกมากมาย


เที่ยวชมสวนพรรณไม้หอมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ.2534 ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี จึงได้จัดทำสวนพรรณไม้หอมขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเป็นแหล่งพันธุกรรมพันธุ์ไม้หอมจากในท้องถิ่นและจากถิ่นอื่นๆ เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับพรรณไม้หอม


นั่งรถพ่วงลาก และปั่นจักรยาน ชมแปลงไม้ผล ท่ามกลางความร่มรื่นและทิวทัศน์อันงดงามของถนนสายต้นปาล์มอายุกว่า 80 ปี


ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก งานบริการ ห้องพัก

  • บ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ราคาหลังละ 800 บาท สามารถเข้าพักได้ 8 ท่าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เตียงนอน โทรทัศน์ ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เสื้อผ้า ราวแขวนผ้า และที่จอดรถ

สามารถโทรจองที่พักได้ที่  เบอร์โทรศัพท์ : 0-3939-7030, 0-3939-7146

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จากตัวเมืองขับรถออกมาที่ถนนสุขุมวิท ตรงกิโลเมตรที่ 346 มีทางแยกซ้ายไปน้ำตกพลิ้ว 2 กิโลเมตร อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่ 134.5 ตารางกิโลเมตรประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อพ.ศ. 2518 สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่ง มีพันธุ์ไม้ต่างๆ เช่น ขนุนป่า กระท้อนป่า พิมเสน ขึ้นอยู่ทั่วไป


วัดมังกรบุปผาราม (วัดเล่งฮัวยี่)ตั้งอยู่ตำบลพลิ้ว  อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ติดถนนสุขุมวิท เส้นทางสายจันทบุรี-ตราด ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 12 กิโลเมตร สร้างเมื่อพ.ศ.2520 เป็นวัดนิกายมหายาน มีศาลาและพระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นลวดลายต่าง ๆ อย่างงดงาม ภายในวัดมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการปฏิบัติธรรม วัดมีที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม


วัดชากใหญ่ตำบลพลิ้วตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 3149 ทางแยกเข้า อ.แหลมสิงห์ จากถนนสุขุมวิทเข้าไปประมาณ 500 เมตร ภายในวัดมีประติมากรรมที่แสดงเรื่องราวในพุทธประวัติตอนแสดงธรรมโปรดบุคคลต่างๆซึ่งล้วนมีลักษณะที่สวยงามและยังมีแผ่นป้ายอธิบายเรื่องราวของปะติมากรรมนั้นๆอีกด้วย


วัดเขาสุกิม แยกจากถนนสุขุมวิทไปทางถนนเส้น 3322 เข้าไป 12 กม. สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 เป็นที่บำเพ็ญภาวนาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป บริเวณวัดมีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 3,280 ไร่ อยู่สูงขึ้นไปบนเนินเขา ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดแสดงศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุโบราณล้ำค่าต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่แหวน หลวงปู่วัน พระอาจารย์มั่น ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.


วัดคาทอลิก (อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล)ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิต โบสถ์ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่าง ๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง พ.ศ. 2552 ได้มีการจัดงานฉลองโบสถ์คาทอลิกจันทบุรีครบรอบ 100 ปี ขึ้นในปี ดังกล่าวด้วย นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศ

เวลาเข้าเยี่ยมชม    
วันจันทร์ – วันเสาร์     เวลา 08.30 – 12.00 น. , 13.00-16.30 น.
วันอาทิตย์                เวลา 13.00-16.00 น.


ชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำจันทบุรีนั้น ในอดีตเคยเป็นศูนย์การค้าที่รุ่งเรือง ปัจจุบันคือสถานที่ท่องเที่ยว ที่หากใครที่มาเยือนจังหวัดจันทบุรีแล้วไม่ควรพลาด ชุมชนแห่งนี้เป็นเครื่องหมายการันตรี ถึงความผสมผสานกันอย่างลงตัวของศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปกรรม และผู้คนที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน


โอเอซีส ซีเวิลด์ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กม. ห่างจากศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี 16 กม. เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ปลาโลมาในน่านน้ำจันทบุรี มีกิจกรรมโลมาโชว์, เล่นน้ำกับโลมา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมบริการอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล โทร. 0-3949-9222


ชายหาดแหลมสิงห์ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร โดยเดินทางไปตามถนนสุขุมวิท เส้นทางไปจังหวัดตราด ถึงกิโลเมตร 347 มีทางแยกขวาไปหาดแหลมสิงห์อีก 16 กิโลเมตร เป็นชายหาดปากอ่าวที่แม่น้ำจันทบุรีไหลมาออกอ่าวไทย ร่มรื่นด้วยทิวสนยาวไปตามแนวของชายหาด มีที่นั่งพักผ่อนพร้อมทั้งร้านจำหน่ายอาหารตั้งเรียงรายอยู่ริมหาด มีบริการด้านที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว จากบริเวณหาดมองออกไปจะเห็นเกาะจุฬา และเขาแหลมสิงห์อยู่เบื้องหน้า และในบริเวณมีเรือให้เช่าไปเที่ยวเกาะจุฬา เกาะนมสาว


ชายหาดจ้าวหลาว  อยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ 15 กม. เป็นชายหาดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจันทบุรี มีบรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว มีบริการที่พักและร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีเรือท้องกระจก และเรือเร็วบริการนำนักท่องเที่ยวไปชมปะการังน้ำตื้นที่อยู่ห่างจากฝั่งไปเพียง 2 กม.


อ่าวคุ้งวิมานอยู่ในเขตอำเภอนายายอาม ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 50 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิท กิโลเมตรที่ 301 เลี้ยวซ้ายไปอีก 18 กิโลเมตร เป็นหาดทรายยาวเหมาะแก่การพักผ่อน ริมหาดมีที่พักบริการ


ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งอยู่ที่ ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ มีพื้นที่ประมาณ 1,100 ไร่ เป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม มีพันธุ์สัตว์น้ำและพันธุ์ไม้ป่าชายเลนมากกว่า 30 ชนิด ขึ้นกระจายโดยทั่วไป ทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศน์ชายฝั่งให้สมบูรณ์ เหมาะแก่การชมธรรมชาติที่สวยงาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3938-8116-8


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี (ค่ายเนินวง) อยู่ห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวที่เก็บรักษาโบราณวัตถุใต้ทะเล จำนวนนับหมื่นชิ้น   จัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับการค้าทางเรือ   ข้อมูลเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนข้อมูลการค้นคว้าวิจัยทางโบราณคดีใต้น้ำ นับเป็นศูนย์กลางความรู้ทางด้านนี้โดยเฉพาะแห่งเดียวในประเทศไทย


หมู่บ้านทอเสื่อบางสระเก้า หมู่บ้านทอเสื่อบางสระเก้า เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่นำกกมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ อีก เช่น กระเป๋า กล่องใส่กระดาษเช็ดมือ ที่รองจาน ที่ใส่จดหมาย และรองเท้าแตะ จากนั้นจึงนำมาขายให้กับศูนย์แปรรูปเสื่อซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านของ คุณสุริยา แก่นจันทร์ โดยศูนย์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและซื้อสินค้าได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-18.00 น. สนใจติดต่อได้ที่ โทร. (039) 450-585, (039) 450-587