ทดสอบ และประยุกต์เทคโนโลยีที่ชักนำให้ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้น
#1
ทดสอบ และประยุกต์เทคโนโลยีที่ชักนำให้ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้น
นิพัฒน์ สุขวิบูลย์, มนตรี ทศานนท์, ศศิธร วรปิติรังสี และวิทย์ นามเรืองศรี

          การศึกษาเทคโนโลยีชักนำให้ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยออกดอกหรือเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้น ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และสวนเกษตรกร อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ระหว่างปี 2549 - 2551 พบว่า การควั่นกิ่งเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 - 15 เซนติเมตรในช่วงดอกบาน แบบ spiral cincturing จำนวน 2 รอบ มีแนวโน้มทำให้ติดผลมากขึ้น แต่ไม่สามารถเร่งให้ผลสุกหรือเก็บเกี่ยวผลได้เร็วขึ้น ไม่มีผลต่อสีเปลือก และคุณภาพผลการพ่นช่อผลบนต้นก่อนที่ผลเปลี่ยนสีประมาณ 1 สัปดาห์ ด้วยสารเอเทรล 100 และ 200 ppm รวมทั้งการห่อช่อผลด้วยถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ ถุงกระดาษสีน้ำตาล และถุงพลาสติกขุ่นไม่สามารถเร่งให้ผลสุกหรือเก็บเกี่ยวผลได้เร็วขึ้น แต่สีเปลือกผลมีค่าสีแดง (a*) แตกต่างกัน การห่อด้วยถุงพลาสติกขาวขุ่นทำให้ผลมีสีสวยเป็นที่ต้องการของตลาด การราดสารโพแทสเซียมคลอเรตทางดินเมื่อใบแก่ อัตรา 50 100 200 และ 300 กรัม/เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตรหรือการราดสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ทางดินเมื่อใบแก่ อัตรา 500 1,000 1,500 ซีซี/น้ำ 40 ลิตรต่อต้นหรือการราดสารพาโคลบิวทราโซลทางดินเมื่อใบอ่อนสีแดง อัตรา 5 10 และ 15 กรัม/ เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตร แล้วพ่นทางใบด้วยสารไทโอยูเรีย อัตรา 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตรหลังราดสาร 45 วันหรือการควั่นกิ่งและราดสารพาโคลบิวทราโซลทางดินเมื่อใบแก่ อัตรา 10 และ 20 กรัม/เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตร แล้วพ่นทางใบด้วยสารไทโอยูเรีย อัตรา 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตรหลังราดสาร 45 วันหรือการราดสารพาโคลบิวทราโซลทางดินเมื่อใบอ่อนสีแดง อัตรา 100 กรัม/ เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตร แล้วราดสารโพแทสเซียมคลอเรตทางดินเมื่อใบแก่อัตรา 50 และ 100 กรัม/เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตรหรือการราดสารพาโคลบิวทราโซลผสมสารโพแทสเซียมคลอเรตทางดินเมื่อใบเพสลาดอัตรา 350+150 และ 700+300 กรัม/ต้น ทุกกรรมวิธีไม่สามารถชักนำให้ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยออกดอกได้


ไฟล์แนบ
.pdf   1070_2551.pdf (ขนาด: 1.75 MB / ดาวน์โหลด: 603)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 1 ผู้เยี่ยมชม