สำรวจและวิเคราะห์ปริมาณไม้ยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
#1
สำรวจและวิเคราะห์ปริมาณไม้ยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ธงชัย  คำโคตร, นภาวรรณ  เลขะวิพัฒน์ และสุรเดช  ปัจฉิมกุล
ศูนย์วิจัยยางหนองคาย  สถาบันวิจัยยาง 

          ได้มีการปลูกยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 นับจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2552) ยางมีอายุครบ 20 ปี ซึ่งตามค่าเฉลี่ยยางพาราส่วนใหญ่โค่นเมื่ออายุ 21.10 ปี ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับสวนยางที่ครบกำหนดโค่น จึงจำเป็นต้องทำการสำรวจและวิเคราะห์ปริมาณไม้ยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อทราบพื้นที่ที่ต้องทำการโค่น โดยแยกเป็นรายจังหวัด รายปี และนอกจากนั้นยังทำการวิเคราะห์หาปริมาณไม้ยางที่ทำการโค่น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการประเมินราคาซื้อขาย ซึ่งจะมีผลทำให้มีการตั้งโรงงานไม้ใกล้แหล่งผลิตลดค่าขนส่งทำให้เกษตรกรได้รับราคาขายที่สูงขึ้นตามไปด้วย 

           ผลการสำรวจและวิเคราะห์ปริมาณไม้พบว่า เกษตรกรที่ปลูกยางพาราในปี 32-36 (ซึ่งปัจจุบันยางพารามีอายุ 18-21 ปี) มีพื้นที่ปลูกเฉลี่ยคนละ 10 ไร่ เกษตรกรใช้ระยะปลูกที่หลากหลายทั้ง 2.5x7, 2.5x8, 3x6, 3x7, 3x8 และระยะอื่นๆ จำนวนต้นยางยืนต้นเฉลี่ย 71.49 ต้น/ไร่ ความสูงจากพื้นดินถึงคาคบเฉลี่ย 2.94 เมตร วัดรอบลำต้นที่ความสูง 20 เซนติเมตรมีขนาดเฉลี่ย 75.09 เซนติเมตร วัดรอบลำต้นที่ความสูง 150 เซนติเมตรมีขนาดเฉลี่ย 64.06เซนติเมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่ายางพาราที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีปริมาตรไม้เฉลี่ย 7.47 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ ซึ่งปริมาตรดังกล่าวจะเป็นปริมาตรของไม้ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 6 นิ้ว ส่วนที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 6 นิ้วจะไม่นำมาคำนวณปริมาตร ส่วนการหาน้ำหนักสดของไม้ยางพาราพบว่า สวนยางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีน้ำหนักสดเฉลี่ย 29.25 ตัน/ไร่ หรือเฉลี่ยต้นละ 409 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักสดที่ได้ดังกล่าวเป็นน้ำหนักสดรวมทั้งต้น (ลำต้นและกิ่งก้านสาขาต่างๆ) 

          ผลการดำเนินโครงการสามารถสรุปได้ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีพื้นที่สวนยางที่ปลูกปี 2532-2536 หรือสวนยางที่มีอายุ 18-22 ปี มีจำนวน 86,818 ไร่ มีปริมาตรไม้ยางพารารวม 672,595 ลูกบาศก์เมตร มีน้ำหนักรวม 2,565,885 ตัน โดยจังหวัดที่มีมากที่สุดคือ จังหวัดหนองคาย รองลงมาคือ จังหวัดเลย และอุดรธานี มีปริมาตรไม้ 302,152 107,491 และ 81,589 ลูกบาศก์เมตร และมีน้ำหนัก 1,179,512 342,573 และ 294,657 ตัน ตามลำดับ


ไฟล์แนบ
.pdf   1537_2552.pdf (ขนาด: 363.7 KB / ดาวน์โหลด: 2,186)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 1 ผู้เยี่ยมชม