ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2563

ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2566

ผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2567

การดำเนินงาน ปีงบประมาณ 2568

คู่มือการปฏิบัติงาน Agri Map
ปีงบประมาณ 256
8

ในปีงบประมาณ 2568 กรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายขับเคลื่อนโครงการ 1 แปลง 1 สินค้า เกษตรมูลค่าสูง จึงมีความสนใจในเทคโนโลยีและกระบวนการผลิต “ปุ๋บชีวภาพอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา” และ “ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต” ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อนำไปขยายผลให้กับเกษตรกรและให้เกิดผลสำเร็จของการขับเคลื่อนการดำเนินงานไปสู่เป้าหมาย จึงได้มีการประชุมหารือแนวทางการขยายผลเทคโนโลยีกระบวนการผลิตปุ๋บชีวภาพอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา และ ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต เพื่อไปปรับใช้อย่างเหมาะสมก่อนการขยายผลสู่เกษตรกร โดยมีแนวทางการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตร ดังนี้

  1. กรมวิชาการเกษตร มีการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพ “ปุ๋บชีวภาพอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา” และ “ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต” เพื่อให้ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ของกรมส่งเสริมการเกษตร ใช้นำร่องจัดทำแปลงต้นแบบการนำปุ๋ยชีวภาพทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์ในการผลิตพืชเกษตรมูลค่าสูง ตามโครงการ 1 แปลง 1 สินค้า เกษตรมูลค่า
  2. ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) กรมส่งเสริมการเกษตร สามารถส่งเจ้าหน้าที่ มาเรียนรู้กระบวนการผลิตได้ที่ กองวิจัยพัฒนาการปัจจัยการผลิตทางการเกษตร (กปผ.) ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร (ศวพ.) ของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ ศวพ.ขอนแก่น ศวพ.พิจิตร ศวพ.สงขลา ศวพ.สุราษร์ธานี และศวพ.จันทบุรี เพื่อให้กรมส่งเสริมการเกษตร สามารถนำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรไปขยายผลสู่เกษตรกรเองได้

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ผู้อำนวยการกองแผนงานและวิชาการ นางศศิญา ปานตั้น เข้าร่วมประชุมคณะทำงานฝ่ายนิทรรศการและการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ผ่านระบบออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Application Program : Zoom

โดย สวก. กำหนดจัดงานประชุมวิชาการและการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ : พลิกโฉมการเกษตรไทยสู่ความยั่งยืนและการแข่งขันในเวทีโลก”

สภาหอการค้าแห้งประเทศไทย สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย สมาคมมะพร้าวน้ำหอมไทย ตัวแทนล้งมะพร้าว (บริษัท P.Y.Thai Fruit และบริษัท ICOCO) กรมส่งเสริมการเกษตร และผู้แทนกรมวชิาการเกษตร ร่วมกันลงพื้น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ปรึกษาแลกเปลี่ยนประเด็นปัญหาและสถานการณ์การผลิตมะพร้าวน้ำหอม พบว่าเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป สภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อการปลูกมะพร้าวน้ำหอม จึงทำให้ความชื้นสัมพันธ์ในแปลงต่ำส่งผลต่อผลผลิตของมะพร้าวลดลง อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนยังกระตุ้นการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยอื่น จึงร่วมกันวิเคราะห์และได้ข้อสรุปประเด็นปัญหา ดังต่อไปนี้

  1. ผลผลิตแตก/ปัญหามะพร้าวขาดคอ ไม่ให้ผลผลิต
  2. ความชื้นสัมพันธ์ในแปลงไม่เพียงพอ ทำให้ผลผลิตลดลง
  3. การป้องกันกำจัดด้วง แมลงศัตรูพืชมะพร้าว
  4. การจัดการ waste เช่น ทางมะพร้าว กาบมะพร้าว มะพร้าวผลลีบ ที่ถูกทิ้งไว้ในสวน
  5. การเตรียมการเรื่องการเก็บเกี่ยว ในช่วงที่ไม่มีน้ำรองรับในร่อง
  6. การใช้ปุ๋ยเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน

จากประเด็นดังกล่าว กรมวิชาการเกษตร ได้สนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกษตรกรสามารถรับมือวิกฤตการณ์และผลิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้จัดอบรม “การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการผลิตมะพร้าวน้ำหอมอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแพงพวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยมีเกษตรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม และผู้ประกอบการ เข้าร่วม จำนวน 30 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้บรรยายในการอบรม หัวข้อบรรยาย ดังนี้

  1. การผลิตมะพร้าวน้ำหอมพรีเมี่ยม
    บรรยายโดย : นางสุภัทรา เลิศวัฒนาเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล สถาบันวิจัยพืชสวน
  2. เทคโนโลยีการผลิตมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพเพื่อให้ได้มาตรฐานการส่งออก
    บรรยายโดย : นางสาวหยกทิพย์ สุดารีย์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร
  3. ธาตุอาหารที่สำคัญในการผลิตมะพร้าวน้ำหอม การหมักปุ๋ย วิเคราะห์ดินและใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม
    บรรยายโดย : 1) นางสาวสายน้ำ อุดพ้วย นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
    2) นางสุปราณี มั่นหมาย นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
    3) นางสาวทิพวรรณ แก้วหนู นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
  4. คลินิกวิเคราะห์ดินและการตรวจวิเคราะห์ดิน
    บรรยายโดย : 1) นางสาวสุภา โพธิจันทร์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
    2) นางสาวเกษร มูสิกะ นักวิชาการเกษตร กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
  5. เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดด้วงมะพร้าว
    บรรยายโดย : นางเสาวนิตย์ โพธิ์พูนศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศัตรูพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช

จากการอบรมดังกล่าว เกษตรกรได้รับความรู้และได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตมะพร้ามน้ำหอมเนื่องจากเกษตรกรที่เข้าร่วมอบรมเป็นกลุ่มเกษตรกรยุคใหม่ จึงมีความสนใจที่จะใช้ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนและผลิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และก้าวมันความเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การปฏิบัติจริงในกาารนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ เพื่อทำให้รายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและมาตรฐานการผลิต และเชื่อมโยงตลาด

พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564 (Thailand Research and Innovation Utilization Promotion Act หรือ TRIUP ACT) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับทุนหรือนักวิจัยที่ได้รับทุนจากหน่วยงานภาครัฐสามารถมีสิทธิ์เป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้ อันจะเป็นการส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการต่อยอด การวิจัย และต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้มีการวิจัยและสร้างนวัตกรรมภายในประเทศเพิ่มขึ้น นั้น

กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้แทนหรือหน่วยงานผู้รับทุนวิจัยจากหน่วยงานภายนอก ซึ่ง พ.ร.บ. TRIUP ACT ได้บังคบใช้กับทุนวิจัยจากหน่วยงานของรัฐ โดยมีแหล่งทุน 9 PMU ดังนี้
1. สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ (วช.)
2. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.)
3. สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)
4. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
5. หน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)
6. หน่วยบริหำรและจัดการรทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและสร้างนวัตกรรม (บพค.)
7. หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย (บพข.)
8. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ ศลช. (TCELS)
9. สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (์NVI)

ณ ปัจจุบัน กรมวิชาการเกษตร ได้ลงนามในสัญญาเป็นผู้รับทุนวิจัยจากหน่วยงานภายนอก 9 PMU ดังนี้
1. สำนักงำนกำรวิจัยแห่งชำติ (วช.)
2. สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)
3. หน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

และเมื่อได้รับทุนวิจัยไปแล้ว กรมวิชาการเกษตร ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. TRIUP ACT ในฐานะ ผู้รับทุน ซึ่ง “ผู้รับทุน” หมายถึง บุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือ นิติบุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญากับผู้ให้ทุนในสัญญาให้ทุน

ซึ่ง สกสว.ได้ออกคู่มือปฏิบัติ TRIUP ACT สำหรับผู้รับทุน ดังภาพ

ซึ่งการที่จะขอรับทุนวิจัยได้ต้องมีผู้เขียนโครงการวิจัย หรือ “นักวิจัย” หมายถึง นักวิจัยที่ปฏิบัติงานภายใต้กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ประดิษฐ์หรือผู้สร้างสรรค์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งผู้รับทุนระบุว่า เป็นนักวิจัยในการเปิดเผยผลงานวิจัยและนวัตกรรม และให้หมายความรวมถึงหัวหน้าโครงการวิจัยและผู้ซึ่งผู้รับทุนระบุว่า เป็นผู้ช่วยนักวิจัยซึ่งร่วมประดิษฐ์หรือร่วมสร้างสรรค์ผลงาานนั้นด้วย

ซึ่ง สกสว. ได้ออกคู่มือปฏิบัติ TRIUP ACT สำหรับนักวิจัย ดังภาพ

และเมื่อทุนวิจัยที่ได้รับครบอายุสัญญาหรืองานวิจัยเสร็จสิ้น “หัวหน้าโครงการและนักวิจัย” ต้องสมัครเข้าใช้งานระบบ TRIUP ทุนท่าน ได้ที่ https://triup.tsri.or.th/siteregister เพื่อให้หัวหน้าโครงการวิจัย รายงานขอค้นพบใหม่ รายงายเปิดเผยผลงานและนวัตกรรม แจ้งความประสงค์ขอเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรม และเสนอแผนและกลไกการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อรายงานต่อ “ผู้รับทุน” (กรมวิชาการเกษตร) เพื่อ “ผู้รับทุน” จะรายงานให้ “ผู้ให้ทุน” พิจารณาอนุมัติต่อไป โดยกองแผนงานและวิชาการ เป็นผู้แทนกรมวิชาการเกษตร ในการรายงานผ่านระบบสารสนเทศ TRIUP และเมื่อน “ผู้ให้ทุน” อนุมัติให้ความเป็นเจ้าของผลงานงานวิจัยแก่ “ผู้รับทุน” (กรมวิชาการเกษตร) แล้ว “หัวหน้าโครงการ” ต้องรายงานผลการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม เป็นระยะเวลา 3 ปี

หัวหน้าโครงการวิจัยและนักวิจัย สามารถ Download แบบฟอร์ม รายงานขอค้นพบใหม่ รายงายเปิดเผยผลงานและนวัตกรรม การแจ้งความประสงค์ขอเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรม การเสนอแผนและกลไกการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม และคู่มือการใช้งานระบบสารรสนเทศ Triup ของ สกสว. ได้ดังนี้

รายงานขอค้นพบใหม่
และเปิดเผยผลงานวิจัย

แจ้งความประสงค์ขอเป็นเจ้าของ
ผลงานวิจัยและนวัตกรรม

เสนอแผนและกลไกการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม

ข้อค้นพบใหม่ คืออะไร ?

ข้อค้นพบหรือผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยหรือสร้างนวัตกรรม โดยการค้นคว้า การทดลอง การสำรวจหรือการศึกษา รวมถึงองค์ความรู้ การประดิษฐ์ กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ กระบวนการบริการ หรือการจัดการในรูปแบบใหม่ซึ่งเป็นข้อค้นพบใหม่หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญและนำไปใช้ประโยชน์ได้

การรายงานข้อค้นพบใหม่

โครงการวิจัยที่เป็นไปตาม พ.ร.บ. TRIUP ACT เมื่อพบข้อค้นพบใหม่จะต้องรายงานข้อค้นพบใหม่ รวมถึงจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ในระบบ เพื่อขอสิทธิความเป็นเจ้าของจากแหล่งทุนก่อน จึงจะสามารถดำเนินการยื่นขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาได้

การเขียนแผนและกลไกลการใช้ประโยชน์ ผลงานวิจัยและนวัตกรรม

แผนการใช้ประโยชน์ แบ่งออกเป็น 4 ด้าน

  1. การใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ คือ การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง หรือวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์หรือต่อยอดผลงานนั้น
  2. การใช้ประโยชน์ในเชิงสาธารณะ คือ การใช้หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์ การจัดทำบริการ การปรับปรุงกรรมวิธีการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร การบริการจัดการ หรือการดำเนินการอื่นใดในเชิงสาธารณะ
  3. การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ คือ การใช้หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์ การจัดทำบริการ การปรับปรุงกรรมวิธีการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร การบริหารจัดการ หรือการดำเนินการอื่นใดในเชิงพาณิชย์
  4. การใช้ประโยชน์ในเชิงจำหน่าย จ่าย โอน คือ การจำหน่าย จ่าย โอน ผลงานวิจัยและนวัตกรรม โดยมีประโยชน์ตอบแทนที่คำนวณเป็นเงินได้ด้วย