วันที่ 8 กันยายน 2568 นางศศิญา ปานตั้น ผู้อำนวยการกองแผนงานและวิชาการ เป็นประธานในการประชุมข้าราชการ พนักงานราชการ และบุคคลากรของกองแผนงานและวิชาการ โดยมีข้าราชการ พนักงานราชการ และบุคคลากรของกองแผนงานและวิชาการเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกรมวิชาการเกษตร 314 ชั้น 3 อาคารกสิกรรม

วันที่ 5 กันยายน 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ ดร.ณัฎฐิมา โฆษิตเจริญกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพืช รักษาการในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผลิตพืช เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นางสาววิยวรรณ บุญทัน ผู้อำนวยการกลุ่มระบบวิจัย กองแผนงานและวิชาการ ชี้แจงแนวทางการจัดส่งข้อเสนองานวิจัยกรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2570 ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการสนับสนุนงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ผ่านระบบ ZOOM Meeting (ห้องประชุมหลัก ณ ห้องประชุมผู้บริหาร ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวิชาการเกษตร) โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง จำนวน 370 ผู้ใช้งาน (user) ประกอบด้วย ผู้บริหารหน่วยงานวิจัย ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย หัวหน้าโครงการวิจัย และนักวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรด้านพืชของกรมวิชาการเกษตร เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและขับเคลื่อนงานวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรด้านพืชไปในทิศทางเดียวกัน

สกสว. กำหนดเป้าหมายการจัดทำข้อเสนองานวิจัย ประจำปี 2570 สำหรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund : FF) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 6 จุดมุ่งเน้น ดังนี้
กลุ่ม 1 จุดมุ่งเน้นกลไกการส่งเสริม

  1. จุดมุ่งเน้นงานพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่และยกระดับนักวิจัย
  2. จุดมุ่งเน้นงานความร่วมมือวิจัยและนวัตกรรมระดับนานาชาติ
    กลุ่ม 2 จุดมุ่งเน้นลักษณะงานวิจัย
  3. จุดมุ่งเน้นงานวิจัยพื้นฐานและขั้นแนวหน้า
  4. จุดมุ่งเน้นงานวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่
  5. จุดมุ่งเน้นงานวิจัยเชิงนโยบายและการพัฒนายุทธศาสตร์
  6. จุดมุ่งเน้นงานวิจัยและพัฒนาต้นแบบทดสอบแนวคิดงานวิจัย เตรียมพร้อมสู่การต่อยอด

ผลจากการประชุมครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2570 ตามพันธกิจและยุทธศาสตร์กรมวิชาการเกษตร สอดรับเป้าหมายการสนับสนุนงบประมาณ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เสริมศักยภาพและความเข้มแข็งด้านการวิจัย พร้อมนำส่งผลผลิตจากงานวิจัยไปใช้ประโยชน์จริง ประเมินผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและประเทศ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 28 สิงหาคม 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้มอบหมาย นางศศิญา ปานตั้น ผู้อำนวยการกองแผนงานและวิชาการ เป็นผู้แทนในฐานะผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร และกลุ่มระบบวิจัย เข้าร่วมการประชุมชี้แจงเป้าหมายการสนับสนุนงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และแนวทางการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก โดยมี นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมทั้งมอบนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบประมาณด้าน ววน. ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “SRI for All – Empowering all SRI organizations to achieve more and leap Thailand forward” มุ่งพัฒนาวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของประเทศ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับสังคมไทยสู่ความสมดุลและยั่งยืนกิจกรรม

สาระสำคัญของการประชุมประกอบด้วย

  1. การปาฐกถา เรื่อง “นโยบายและเป้าหมายด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ” โดย ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.)
  2. การบรรยาย เรื่อง “การขับเคลื่อนระบบ ววน. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570” โดย ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
  3. การเสวนาหัวข้อ “เจาะลึกมีอะไรใหม่ในการบริหาร ววน.” โดย รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
  4. การประชุมเเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบประมาณด้าน ววน. ปี 2570 และวีดิทัศน์ การยื่นข้อเสนองานวิจัย ปี 2570 ด้วย

ผลจากการประชุมครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการงบประมาณวิจัยให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความท้าทายของประเทศ สร้างผลกระทบเชิงบวกที่หลากหลาย ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

วันที่ 26 สิงหาคม 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวิชาการเกษตร โดยมีคณะกรรมการร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการกอง/สถาบัน/สำนัก กรมวิชาการเกษตร และมีผู้อำนวยการกองแผนงานและวิชาการ (นางศศิญา ปานตั้น) ร่วมกับทีมกลุ่มระบบวิจัย กลุ่มวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย เข้าร่วมการประชุม เพื่อพิจารณารับรองผลงานวิจัยด้านพันธุ์พืชที่ให้ผลผลิตสูง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชให้มีคุณภาพดี เหมาะสมกับแต่ละสภาพพื้นที่ ตรงตามความต้องการของตลาด และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทางด้านการยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ที่มุ่งเน้นการผลิตที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมแกร่งเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลิตเมล็ดพันธุ์ และพันธุ์พืชคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตพืชต่างๆ ทั้งการปรับปรุงพันธุ์พืช และเทคโนโลยี Gene Editing

ในปีงบประมาณ 2568 กรมวิชาการเกษตรมีผลงานวิจัยด้านพันธุ์พืชที่ผ่านการพิจารณา 7 ชนิดพืช (กล้วยไม้ ดาหลา ชา โกโก้ มะขามป้อม อ้อย และถั่วเหลือง) รวมทั้งสิ้นจำนวน  10 พันธุ์ ประกอบด้วย

พันธุ์พืชสวนจำนวน 7 พันธุ์ ได้แก่ 1) กล้วยไม้ดินใบหมากพันธุ์ กวก. เชียงราย 1 ออกดอกเร็ว ดอกดก ต้นกะทัดรัด เหมาะสำหรับการผลิตไม้กระถางขนาดเล็ก 2) กล้วยไม้ดินใบหมากพันธุ์ กวก. เชียงราย 2  ออกดอกเร็ว ช่อดอกแน่น ก้านช่อดอกตั้งตรงและแข็งแรง เหมาะสำหรับเป็นไม้กระถางขนาดกลาง โดย ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย 3) ดาหลาพันธุ์ กวก. ตรัง 6 มีรูปทรงดอกแปลกใหม่ ดอกกะทัดรัด อายุปักแจกันนาน เหมาะสำหรับการใช้ดอกตกแต่ง 4) มะขามป้อมพันธุ์ กวก. ตรัง 1 มีวิตามินซีสูง ผลขนาดใหญ่มีเนื้อเยอะโดยศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง 5) ชาพันธุ์ กวก. เชียงใหม่ 1 รสชาติดี มีกลิ่นหอม ผลผลิตสูง ใบบาง โดยศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ 6) โกโก้พันธุ์ กวก. ชุมพร 2 มีน้ำหนักเมล็ดแห้งสูง เมล็ดแห้งมีขนาดใหญ่ และ 7) โกโก้พันธุ์ กวก. ชุมพร 3 ผลใหญ่ น้ำหนักเมล็ดแห้งสูง โดยศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร

พันธุ์พืชไร่จำนวน 3 พันธุ์ ได้แก่ 1) อ้อยพันธุ์ กวก. นครสวรรค์ 2 ผลผลิตสูง ให้ปริมาณผลผลิตน้ำตาลสูงกว่าพันธุ์เดิม โดยศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ 2) ถั่วเหลืองฝักสดพันธุ์ กวก. เชียงใหม่ 8 ฝักดก โปรตีนสูง รสชาติดีมีกลิ่นหอม คุณภาพตรงตามมาตรฐานการส่งออก และ 3) ถั่วเหลืองพันธุ์ กวก. เชียงใหม่ 9 ผลผลิตและโปรตีนสูง โดยศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่

โดยผลงานวิจัยด้านพันธุ์พืชทั้ง 10 พันธุ์ดังกล่าว ผ่านการพิจารณากลั่นกรอง การตรวจสอบลักษณะประจำพันธุ์ ลักษณะดีเด่นทางการเกษตรตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืชและระเบียบการรับรองพันธุ์พืชของกรมฯ โดยแต่ละพันธุ์พืชที่พัฒนาจะมีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ต่างกันในแต่ละภูมิภาค หรือเป็นพันธุ์พืชที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันตามพื้นที่ที่เหมาะสม กรมวิชาการเกษตรมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานวิจัยด้านพันธุ์พืชทั้ง 10 พันธุ์นี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้ตามลักษณะเด่นของแต่ละพันธุ์พืชและสร้างรายได้กลับคืนสู่เกษตรกรได้เพิ่มขึ้น โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรย้ำ พันธุ์แนะนำทั้ง 10 สายพันธุ์ ต้องเร่งขยายพันธุ์ เพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกร

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการดำเนินงานวิจัยด้านการเกษตร ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานอธิบดีกรมวิชาการเกษตร อนุมัติงานวิจัยด้านการเกษตรที่เร่งด่วนสำคัญ ประจำปี 2568 จำนวน 4 โครงการ :

  1. โครงการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีแบบผสมผสานเพื่อการป้องกันกำจัดโรคกรีนนิ่งในส้มเปลือกล่อน เพื่อลดการใช้ยาต้านจุลชีพในสวนส้มเปลือกล่อน มุ่งเป้าลดการใช้ยาต้านจุลชีพร้อยละ 25 ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนกว่า 300 ล้านบาทต่อปี เพิ่มศักยภาพการส่งออก และลดความเสี่ยงสินค้าถูกตีกลับจากประเทศคู่ค้า
  2. โครงการขยายผลเทคโนโลยีการตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อการส่งออก ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง มุ่งเป้ายกระดับคุณภาพผลผลิต เกษตรกรมีรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 คิดเป็นมูลค่ากว่า 500,000 บาท และสร้างโอกาสแข่งขันในตลาดโลก
  3. โครงการทดสอบประสิทธิภาพของชีวภัณฑ์แบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส DOA 24 (BS-DOA 24) ในการควบคุมโรคใบร่วงยางพารา มุ่งเป้าลดความเสียหายระบบการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตน้ำยางต่อไร่ รักษาเสถียรภาพรายได้เกษตรกร และลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจระยะยาว
  4. โครงการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบใบทะเบียน ใบอนุญาตและใบรับรองแบบอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้กฎหมายการกำกับดูแลของกรมวิชาการเกษตรและการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบ National Single Window : NSW รองรับการนำเข้า–ส่งออกสินค้าเกษตร เสริมความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย เพิ่มมูลค่าและเพิ่มโอกาสทางการค้าและการส่งออก

อีกทั้งยังได้อนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายเงินรายได้จากการดำเนินงานวิจัยด้านการเกษตร ประจำปี 2569 เพื่อใช้ในการวิจัยต่อยอดและขยายผล แก้ไขปัญหาเร่งด่วน เสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง จุดประกายเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก พร้อมยกระดับรายได้เกษตรกรและเปิดโอกาสสู่ตลาดใหม่ ภายใต้แนวทาง ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ผลักดันเป้าหมายการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน