


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานวันลองกอง “ของดีเมืองนรา” ครั้งที่ 48

วันที่ 16 กันยายน 2568 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานวันลองกอง ภายใต้งานวันของดีเมืองนรา ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 13 – 22 กันยายน 2568 โดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน พร้อมด้วยนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร เฝ้ารับเสด็จ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดนราธิวาส
ในการนี้ ผู้บริหารจากสถาบันวิจัยพืชสวนได้เข้าร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ ได้แก่ นางสาวทิพยา ไกรทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร นายฉัตรชัย กิตติไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง และนายบุญชนะ วงษ์ชนะ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา
นอกจากนี้ สถาบันวิจัยพืชสวน โดยนางสาวทิพยา ไกรทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ได้รับเกียรติให้เป็นผู้แทนในการทูลเกล้าฯ ถวายกระเช้าของที่ระลึก ซึ่งประกอบด้วย มะพร้าวกะทิ กวก.สุราษฎร์ธานี 1 และมะพร้าวน้ำหอมรพีภัทร์ ณ ศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส


สำนักงานจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก กรมวิชาการเกษตร เชิญติมอร์-เลสเต ร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี

วันที่ 15 กันยายน 2568 นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน (สวส.) และผู้อำนวยการสำนักงานจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (สพล.) กรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย นางวิไลวรรณ ทวิชศรี ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ นางปาริชาติ พจนศิลป์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ นายไพฑูรย์ บุปผาดา นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ และนางสาวปรางทิพย์ มัศโอดี นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ พร้อมด้วย นางปิยนุช นาคะที่ปรึกษากรมวิชาการเกษตร ด้านพืชสวนอุตสาหกรรม เข้าพบ Mr.Francisco Timan เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ประจำประเทศไทย เพื่อเชิญองค์กรเข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 (Udon Thani International Horticultural Expo 2026) ซึ่งจะจัดในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570 ณ สวนสาธารณะหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ได้เชิญชวนประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมจัดงานฯ โดยเสนอพื้นที่ให้จัดแสดงพืชพรรณ ผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรมของประเทศของตน โดยมีพื้นที่ให้จัดแสดง 2 ส่วน คือ การจัดสวนในอาคาร และ การจัดสวนนอกอาคาร ปัจจุบันมีประเทศที่ยืนยันการจัดแสดงสวนนอกอาคารแล้ว ได้แก่ ประเทศภูฏาน ปากีสถาน เนปาล และ โคลัมเบีย และประเทศที่ยืนยันการจัดแสดงสวนในอาคารแล้ว ได้แก่ ปากีสถาน โคลัมเบีย เยเมน โซมาเลีย และมาดากัสการ์ แล้วยังมีประเทศที่แสดงความประสงค์ร่วมจัดสวนอีกหลายประเทศ ทั้งนี้ประเทศที่เข้าร่วมจัดงานต้องนำเสนอการออกแบบสวนที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569“Diversity of Life : Connecting people, water and plants for sustainable living”

กรมวิชาการเกษตรจัดงานประมูลสุดยอดกาแฟไทย ปี 2568 ยกระดับสู่ตลาดโลก

วันที่ 12 กันยายน 2568 สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร จัดงานประมูลสุดยอดกาแฟไทย ปี 2568 (Thai Coffee Excellence 2025 : TCE 2025) ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวิชาการเกษตร พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานเปิดงานประมูล และ นายวิศรุต สันม่าแอ ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารโครงการวิจัย กล่าวรายงาน สำหรับการจัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยหลังจากประกาศผลการตัดสิน แล้วจะนำเมล็ดกาแฟของเกษตรกรที่ได้คะแนนสูงสุด ลำดับที่ 1-10 ไปจัดประมูลเป็นประจำทุกปี โดยรายได้จากการประมูล จะมอบให้แก่เกษตรกรเจ้าของเมล็ดกาแฟ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
ปี 2568 แบ่งเป็น 2 ประเภทการประกวด เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทการประกวดเมล็ดกาแฟ (Thailand Best Coffee Beans 2025) และ ประเภทการประกวดการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP & Regenerative) มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมการประกวดจำนวน 66 สวน แบ่งเป็นสวนอะราบิกา 27 สวน และสวนโรบัสตา 39 สวน ส่วนการประกวดเมล็ดกาแฟ มีตัวอย่างสิ่งประกวดที่เกษตรกรส่งเข้าร่วมประกวดรวมทั้งสิ้น 131 ตัวอย่าง ได้แก่
1) กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีแห้ง (Dry Process) จำนวน 37 ตัวอย่าง จากเกษตรกร 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา และลำปาง 2) กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีเปียก (Wet Process) จำนวน 27 ตัวอย่าง จากเกษตรกร 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เลย และลำปาง
3) กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีกึ่งแห้ง (Honey Process) จำนวน 26 ตัวอย่าง จากเกษตรกร 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำปาง
4) กาแฟโรบัสตาไม่แยกกระบวนการแปรรูป จำนวน 41 ตัวอย่าง จากเกษตรกร 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร เลย ระนอง น่าน เชียงราย ตาก และศรีสะเกษ
กรมวิชาการเกษตรได้ประกาศผลการประกวดผู้ชนะเลิศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 พร้อมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรม Road Show ที่จังหวัดชุมพร กระบี่ พะเยา น่าน และเชียงใหม่ รวมถึงการนำกาแฟที่ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1–10 ของแต่ละประเภท ไปจัดแสดงในงาน Food and Hospitality Thailand 2025 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมาอีกด้วย และหลังจากการประมูลในวันนี้ ในลำดับถัดไปจะเป็นการจัดพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในพิธีมอบรางวัล วันที่ 28 กันยายน 2568 ณ สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี
ปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลผ่านระบบออนไลน์จำนวน 50 ราย มูลค่าที่เกิดขึ้นจากการประมูลกาแฟปี 2568 รวมทั้งสิ้น 1,441,865 บาท

สถาบันวิจัยพืชสวนปลื้ม คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 สาขาบริการภาครัฐ

วันที่ 12 กันยายน 2568 ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ร่วมแสดงความยินดีกับนางลัดดาวัลย์ อินทร์สังข์ หัวหน้างานวิจัยพืชสมุนไพร ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 สาขาบริการภาครัฐ ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล ระดับดีเด่น จากผลงาน “ยกระดับสมุนไพรไทย เชื่อมโยงห่วงโซ่อุตสาหกรรม”
ในโอกาสนี้ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เข้าร่วมพิธีรับมอบรางวัล โดยมีศาสตราจารย์กิตติคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ กรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ เป็นผู้มอบรางวัล ทั้งนี้ นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน มอบหมายให้ ดร.อนุวัฒน์ รัตนชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยพืชสวนเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดี
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า รางวัลเลิศรัฐ ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุด ของหน่วยงานภาครัฐ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนางานบริการภาครัฐ สู่ความทันสมัย โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างแท้จริง ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนชัดถึงความทุ่มเท ของบุคลากรกรมวิชาการเกษตร ที่ทำงานหนัก บูรณาการความรู้ วิจัย และนวัตกรรม จนสามารถเปลี่ยน “นโยบาย” ให้กลายเป็น “ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” และ 5 รางวัลเลิศรัฐปี 2568 ไม่เพียงเป็นเกียรติยศสูงสุดของกรมวิชาการเกษตร แต่ยังเป็นพลังใจสำคัญในการพัฒนาเกษตรไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
