กรมวิชาการเกษตร จัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย ประจำปี 2568
วันที่ 29 กันยายน 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน (Thai National Flag Day) ประจำปี 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย และเพื่อสร้างความภาคภูมิใจแก่คนในชาติ
ในการนี้ กรมวิชาการเกษตรได้จัดกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทยในเวลา 08.00 น. โดยมีนางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมวิชาการเกษตรร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุม Tradition Hall สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี
ประชุมคณะกรรมการบริหารกรมวิชาการเกษตร ครั้งที่ 3/2568
วันที่ 28 กันยายน 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกรมวิชาการเกษตร ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน และคณะผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมนงนุชเทรดดิชั่น Meeting A1 – A2 สวนนงนุช พัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีและผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting
งานแถลงผลงานกรมวิชาการเกษตร ปี 2568 โชว์นวัตกรรมวิจัย หนุนเกษตรไทยยั่งยืน
วันที่ 28 2568 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานแถลงผลงานกรมวิชาการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมงานวิจัย สร้างโอกาสให้ภาคเกษตรไทยอย่างยั่งยืน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28–30 กันยายน 2568 ณ สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน และผู้บริหาร ข้าราชการ นักวิชาการ และเกษตรกรเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
รมช.อามินทร์ กล่าวชื่นชมกรมวิชาการเกษตรว่าเป็น “คลังสมอง” ที่สำคัญของประเทศในการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพืช เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยท่ามกลางความท้าทาย ทั้งด้านสภาพภูมิอากาศ โรคและแมลงศัตรูพืช รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ พร้อมย้ำให้กรมวิชาการเกษตรสืบสานและต่อยอดผลงานวิจัย เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย
ภายในงานมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่บุคลากรและผลงานวิจัยดีเด่น รวม 9 ประเภทกว่า 60 รางวัล การนำเสนอผลงานเด่น เช่น อ้อยหวานน้ำตาลสูงพันธุ์ใหม่ และการยกระดับสมุนไพรไทยสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม ตลอดจนการเสวนาและบรรยายพิเศษ โดยมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมหลากหลายด้าน อาทิ ผลงานรางวัลเลิศรัฐ โครงการพระราชดำริ และ AI Chatbot ตัวช่วยอัจฉริยะเพื่อการเกษตร
โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
1. การมอบรางวัล รางวัลผลงานวิจัยดีเด่น ประจำปี 2568 รางวัลโครงการพระราชดำริและโครงการพิเศษดีเด่น ประจำปี 2568 รางวัล DOA Together รางวัลนักวิจัยดีเด่นรุ่นอาวุโสและรางวัลนักวิจัยดีเด่นรุ่นเยาว์ ประจำปี 2568 และใบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้สร้างคุณูปการแก่กรมวิชาการเกษตร จำนวน 9 ประเภท รวม 62 รางวัล
2. ภาคการประชุม
– การนำเสนอผลงานเด่น เช่น เรื่อง อ้อยหวานน้ำตาลสูง พันธุ์ กวก.นครสวรรค์ 1 / เรื่อง ยกระดับสมุนไพรไทย เชื่อมโยงห่วงโซ่อุตสาหกรรม
– การเสวนา หัวข้อ กรมวิชาการเกษตรในยุคสงครามการค้าเดือด : โอกาส ความท้าทาย มาตรการใหม่ที่ไทยต้องเผชิญ โดยวิทยากรจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และกรมวิชาการเกษตร
– การบรรยายพิเศษ หัวข้อ แนวคิด วิธีการ สู่ความสำเร็จ โดยได้รับเกียรติจากคุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา
3. ภาคนิทรรศการ ประกอบด้วย ผลงานวิจัยดีเด่น ผลงานโครงการพิเศษและโครงการพระราชดำริดีเด่น ผลงาน DOA Together การดำเนินงานแบบมีส่วนร่วม ผลงานรางวัลเลิศรัฐ ของสำนักงาน ก.พ.ร. และ AI Chatbot ตัวช่วยอัจฉริยะ พลิกโฉมการเกษตรไทย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต ความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช รวมถึงการพัฒนาด้านโภชนาการเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ลดต้นทุนการผลิต เสริมรายได้ให้เกษตรกร เชื่อมโยงผู้วิจัยกับผู้ใช้ประโยชน์ และขับเคลื่อนการเกษตรไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
พิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ผู้ชนะการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2568
วันที่ 28 กันยายน 2568 นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ผู้ชนะการประกวด ในงาน “การประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2568 (Thai Coffee Excellence 2025)” ณ สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีนายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง นางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวกาญจนา ทองนะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน และคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธีฯ
การประกวดจัดขึ้น 2 ประเภท รวม 30 รางวัล ได้แก่
1. การประกวดเมล็ดกาแฟคุณภาพ ครอบคลุมการแปรรูป 4 รูปแบบ รวม 16 รางวัล
2. การประกวดสวนกาแฟมาตรฐาน GAP & เกษตรเชิงฟื้นฟู ทั้งอะราบิกาและโรบัสตา รวม 10 รางวัล
ปีนี้มีเมล็ดกาแฟเข้าประกวด 131 ตัวอย่าง และสวนกาแฟ 66 สวนจากทั่วประเทศ ไฮไลท์สำคัญคือการประมูลกาแฟคุณภาพสูง 1–10 อันดับ ได้มูลค่ารวมกว่า 1.44 ล้านบาท โดยกาแฟโรบัสตาประมูลสูงสุดถึง 8,200 บาท/กก. และอะราบิกาแบบแห้งสูงสุด 3,500 บาท/กก. สะท้อนว่ากาแฟไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้จริง โดยโรบัสตาสร้างรายได้เพิ่มกว่า 147% และอะราบิกาเพิ่มกว่า 50% เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิต การประกวดครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับมาตรฐานการผลิตและเผยแพร่อัตลักษณ์กาแฟไทย แต่ยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ “กวก.เกอิชา (DOA Geisha)” ที่จะเริ่มกระจายสู่เกษตรกรในปี 2569 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก

































