ฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 ผลผลิตสูง ทนทานแมลง

การพัฒนาฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้พันธุ์ฝ้ายที่มีเส้นใยสั้นสีน้ำตาล ที่ให้ผลผลิตฝ้ายปุยทั้งเมล็ดมากกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3 ไม่น้อยกว่า 20% ในสภาพปลอดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย  ทนทานต่อแมลงศัตรูฝ้าย โดยเฉพาะเพลี้ยจักจั่นฝ้าย (Amrasca biguttula Ishida) และต้านทานต่อโรคใบหงิก และ เพื่อให้ได้พันธุ์ฝ้ายที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3

 ประวัติ

ฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 (AKH4-E17) เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ฝ้าย ระหว่างฝ้ายเส้นใยสั้น ใบขน ที่ทนทานต่อการเข้าทำลายของเพลี้ยจักจั่นฝ้าย คือพันธุ์ AKH4 เส้นใยสีขาว ผลผลิตสูง และอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ที่ใช้เป็นพันธุ์แม่กับพันธุ์ตากฟ้า 3 เส้นใยสั้นสีน้ำตาล และต้านทานต่อโรคใบหงิก ที่ใช้เป็นพันธุ์พ่อ เมื่อปี พ.ศ. 2549 และทำการคัดเลือกแบบ Mass Selection และ Pedigree Selection ที่ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ระหว่างปี 2551-2555 จนได้สายพันธุ์ดีเด่นจำนวน 32 สายพันธุ์ จากนั้นจึงทำการประเมินผลผลิต และศึกษาข้อมูลจำเพาะของสายพันธุ์ตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืชของกรมวิชาการเกษตร ระหว่างปี 2556-2562 ซึ่งพบว่าพันธุ์ตากฟ้า 8 เส้นใยสั้นสีน้ำตาล ให้ผลผลิตสูง ต้านทานต่อโรคใบหงิก และทนทานต่อการเข้าทำลายของเพลี้ยจักจั่นฝ้ายในการปลูกสภาพที่ไม่มีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย ตลอดจนมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3

สีเส้นใยของฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 เปรียบเทียบกับพันธุ์ตากฟ้า 3  พบว่า พันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 ให้เส้นใยสีน้ำตาล (GREYED ORANGE GROUP : 165C) ในเฉดสีที่เข้มกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3  ซึ่งมีเส้นใยสีน้ำตาลเฉดสีอ่อน (GREYED ORANGE GROUP : 165D) โดยทั้งสองพันธุ์จัดเป็นฝ้ายเส้นใยสั้นที่มีเปอร์เซ็นต์หีบและคุณภาพเส้นใยอยู่ในระดับเดียวกัน  ดังนั้นฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 จึงจัดเป็นสายพันธุ์ฝ้ายที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีสีของเส้นใยเป็นสีน้ำตาลตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการฟอกย้อม ส่งผลให้เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบของหัตถกรรม และอุตสาหกรรมสิ่งทอในปัจจุบันและอนาคต

ด้านการให้ผลผลิตฝ้ายปุยทั้งเมล็ด นั้น ฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8  ให้ผลผลิตเฉลี่ย 154 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3 ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 115 กิโลกรัมต่อไร่ ร้อยละ 34

สรุปลักษณะเด่นของฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8

  1. มีเส้นใยเป็นสีน้ำตาลตามธรรมชาติ (GREYED ORANGE: 165C)1/
  2. ให้ผลผลิตสูง
  3. ทนทานต่อแมลงศัตรูฝ้าย โดยเฉพาะเพลี้ยจักจั่น
  4. ต้านทานต่อโรคใบหงิก
  5. มีอายุการเก็บเกี่ยวที่สั้นกว่าพันธุ์ตากฟ้า 3

ฤดูปลูกที่เหมาะสม : ระหว่างเดือนมิถุนายน-กลางสิงหาคม อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 117-147 วัน

พื้นที่แนะนำ : ปลูกได้ในแหล่งผลิตฝ้ายของประเทศไทย สามารถปลูกในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ในสภาพที่ไม่มีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย

ข้อควรระวัง

ถึงแม้ว่าฝ้ายพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 จะมีศักยภาพในการให้ผลผลิต ในสภาพการปลูกแบบปลอดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย แต่ต้องมีการจัดการที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการใช้วิธีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูแบบผสมผสาน ตั้งแต่การเลือกพื้นที่ปลูก ฤดูปลูก รวมถึงการใช้สารชีวภัณฑ์ร่วมด้วย หากพบว่ามีการรระบาดของแมลงศัตรูฝ้ายอย่างรุนแรง

ฝ้ายพันธุ์ ” กวก. ตากฟ้า 8″ ผ่านการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร เมื่อปี 2564

ความสม่ำเสมอของต้นฝ้าย พันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8
ลักษณะสมอ: รูปไข่/ สีกลีบดอก: ครีม สีอับละอองเกสร: เหลือง / สีของปุยหรือเส้นใยฝ้าย: น้ำตาล

 

เสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำตาลธรรมชาติ จากพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 เข็นและทอมือ
เสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำตาลธรรมชาติ จากพันธุ์ กวก. ตากฟ้า 8 เข็นและทอมือ
ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ

1/ ใช้แผ่นคู่มือเทียบสีพืชผักและผลไม้: Royal Horticultural Society (RHS Colour Chart) (Fifth edition). 2007.
อัพเดท : 30 พ.ย. 65