
ด่านตรวจพืชช่องเม็กจับมือด่านศุลกากรช่องเม็กจับผู้ต้องสงสัยเตรียมขนต้นพันธุ์ทุเรียนหมอนทองพืชสงวนไทย 8 พันต้น มูลค่ากว่า 2 แสนบาทออกนอกประเทศ ยึดของกลางพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำผิดตามพ.ร.บ.พันธุ์พืชหากลักลอบส่งออกพืชสงวนไทย 11 ชนิดโดยมิได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 4 พันบาท





นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบส่งออกพืชสงวนตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช ของไทย ล่าสุดนายตรวจพืช ด่านตรวจพืชช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี กรมวิชาการเกษตร ได้รับเบาะแส จากพลเมืองดีว่า จะมีการลักลอบนำพืชสงวนของไทยส่งออกนอกราชอาณาจักร จึงได้ประสานขอความร่วมมือกับด่านศุลกากรช่องเม็กร่วมกันเข้าตรวจสอบพบรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งบริเวณจุดตรวจรถยนต์และสินค้าขาออก ด่านพรมแดนช่องเม็ก ซึ่งจอดอยู่ในพื้นที่ขาออก คณะเจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจสอบรถยนต์บรรทุกดังกล่าว พบต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนอยู่หลังรถยนต์บรรทุกจึงได้ควบคุมตัวผู้ขับรถดังกล่าวมายังด่านศุลกากรช่องเม็กซึ่งจากการตรวจค้นพบต้นกล้าพันธุ์พืชสงวนคือต้นพันธุ์ทุเรียนหมอนทองจำนวน 8,000 ต้นคิดเป็นมูลค่า 240,000 บาท (ต้นละ 30 บาท) จึงแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องสงสัยทราบว่าเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดส่งออกพืชสงวน เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรี และเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทดลองหรือวิจัยในทางราชการเท่านั้น หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 4,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้นำส่งผู้ต้องสงสัยให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี และได้ยึดของกลางที่เป็นพืชสงวนทั้งหมดไว้ในความดูแลของด่านศุลกากรหนองคายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


“การจับกุมครั้งนี้ ได้แจ้งข้อหาให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่าผิดตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืชฯ ฐานความผิดพยายามส่งออกพืชสงวนของไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามกฎหมายนั้นรัฐมนตรีจะมีอำนาจอนุญาตให้ส่งออกพืชสงวนได้เฉพาะ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทดลองหรือวิจัยเท่านั้น โดยพระราชบัญญัติพันธุ์พืชฯ กำหนด พืชสงวนไว้ทั้งหมด 11 ชนิด คือ ทุเรียน องุ่น ลิ้นจี่ มะพร้าว มะขาม ส้มโอ ลำไยทองเครือกวาวเครือ สละ และสับปะรด ซึ่งหากมีการลักลอบส่งออกพันธุ์พืชสงวนของไทยเหล่านี้ออกไปขยายพันธุ์ในประเทศอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยตรงอย่างมาก ดังนั้นหากผู้ใดทราบเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรทั่วประเทศ ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว