นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามนโยบายการยกระดับสินค้าเกษตรของไทยให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตนจึงได้มอบหมายให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จัดงาน “แถลงผลงานวิจัยและนวัตกรรม สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7” ระหว่างวันที่ 20 – 21 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมขนอมคาบาน่า บีช รีสอร์ท อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดองค์ความรู้ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการผลิตพืชปลอดภัยให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิด ‘การพบปะ’ และ ‘เชื่อมโยง’ ระหว่างนักวิจัยกับผู้ที่สนใจนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายรัตนะ สวามีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิด งานวิจัยถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรและผู้ใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อันนำไปสู่การกำหนดทิศทางงานวิจัยในอนาคตที่เฉียบคมตรงจุดยิ่งขึ้น โดยเกษตรกรสามารถนำองค์ความรู้จากกรมวิชาการเกษตรไปปรับใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรของตนเองได้
นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 7 กล่าวว่า สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดเทคโนโลยีองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ที่ได้มีการดำเนินการวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมของกรมวิชาการเกษตรที่ได้รับไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่เกษตรของตนเอง ปรับปรุงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร เพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตพืช เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรในอนาคต และตอบสนองความต้องการสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของตลาด เพื่อรองรับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการ “สวพ.7 ขับเคลื่อนผลงานวิจัยใช้ได้จริง” เปิดตัว “เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี” ชีวภัณฑ์ควบคุมโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน ความหวังใหม่ชาวสวนทุเรียนไทย รับฟังบรรยายพิเศษ “จากสวน-ไร่นา สู่ หน้าจอ : เปลี่ยนผลผลิตเกษตรเป็นเงินล้านด้วยคอนเทนต์” แนะแนวการตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้บริโภคในยุคใหม่ ร่วมเสวนา “โอกาสของเกษตรกรกับยุคแห่งการแข่งขันและมาตรการที่เปลี่ยนแปลงไปในพืชส่งออก (ทุเรียน)”: ร่วมต่อยอดองค์ความรู้สู่อนาคตที่ยั่งยืน เจาะลึกแนวโน้มตลาดโลกและมาตรการการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมให้เกษตรกรไทยไปแข่งขันในเวทีสากล โดยได้รับเกียรติจากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายรัตนะ สวามีชัย นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร นายศิริ เฮ่าสกุล นายกสมาคมทุเรียนใต้ ดร.วันสาด ศรีสุวรรณ ประธานสภาเกษตรกรสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ร่วมเสวนาร่วมสะท้อนอนาคตการส่งออกทุเรียนไทย
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้เกียรติมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานวิจัยแก่คณะนักวิจัยในพื้นที่ สวพ.7 และ สวพ.8 ในงานแถลงผลงานวิจัยและนวัตกรรม โดยเน้นย้ำตลาดนำการผลิต ตลาดนำการวิจัย โดยวิจัยสินค้าพืชปลอดภัย มูลค่าสูง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในระดับโลก ให้เกิดการบรรลุเป้าหมายในการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิเช่น ผลงานวิจัยควรนำมาเผยแพร่ ผ่านระบบออนไลน์ ให้สามารถสืบค้นได้ง่าย เช่น การนำไปเชื่อมโยงกับระบบ GPT Chatbot การแก้ปัญหาการปนเปื้อนแคดเมียม หนอนเจาะในสวนทุเรียน โดยการประเมินสภาพดิน และการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร พร้อมทั้งให้ถอดบทเรียน ปัญหา และอุปสรรคในการส่งออกทุเรียน ในฤดูกาลที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติในฤดูกาลใหม่ พืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ไข่ผำ กระท่อม ซึ่งกระท่อมควรมีฐานข้อมูลการผลิตครบวงจร ได้แก่ การปลูก ต้นทุนการผลิต ผลผลิต และราคาจำหน่าย สาหร่ายที่สามารถผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน การผลิตวัสดุชีวภาพจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น การดำเนินการในแปลงปาล์มน้ำมันของกลุ่มส่งเสริมอาชีพเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในพื้นที่ดังกล่าว มีกิจกรรมที่มีส่วนช่วยในการสร้างความยั่งยืนในการผลิตปาล์มน้ำมัน ได้แก่ กิจกรรมการผลิต ไบโอชาร์ (Biochar) จากทางใบปาล์มน้ำมัน มาใส่ในแปลงเป็นปุ๋ย และนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตงานฝีมือ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร (ขนอม โมเดล) และการผลิตสินค้าเกษตรภายใต้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU Deforestation Regulation, EUDR) ซึ่ง สวพ.7 ได้จัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เพื่อดำเนินการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ EUDR ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ลานเทปาล์มน้ำมัน โรงหีบน้ำมันปาล์มดิบ และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
การแถลงผลงานในครั้งนี้ แสดงถึงผลการดำเนินงานวิจัยของ สวพ.7 ในการใช้ “องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความต้องการของตลาดโลก หรือเทคโนโลยีดิจิทัลที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า งานวิจัยในปัจจุบันจะต้องไม่หยุดอยู่เพียงในห้องปฏิบัติการ หากแต่ต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ใช้ประโยชน์ในทุกระดับอย่างแท้จริง โดยกรมวิชาการเกษตรให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย และสร้างความยั่งยืนในระบบการผลิตทางการเกษตร การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ สวพ.7 ในการสื่อสารผลงานที่เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“การจัดงานในครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลงานวิจัยที่จับต้องได้ ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง นำมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดองค์ความรู้ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตพืชในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน พร้อมขยายผลสู่ผู้เข้าร่วมงาน เกษตรกร ผู้ประกอบการ นักวิจัย ภาคเอกชน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
**************************************
Users Today : 881
Views Today : 2595
Who's Online : 13
