วันที่ 28 ธันวาคม 2568 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยนางศศิญา ปานตั้น รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย เพื่อยกระดับเป็น “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผลิตกาแฟอะราบิกาครบวงจรในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน” และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน โครงการ “กาแฟ 1,000,000 ต้นบนพื้นที่สูง” สร้างความเข้มแข็งของระบบการผลิตกาแฟอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตร
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า กาแฟอะราบิกาเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของพื้นที่สูง มีพื้นที่ปลูกกว่า 129,778 ไร่ ครอบคลุม 15,568 ครัวเรือน โดยร้อยละ 98 อยู่ในภาคเหนือตอนบน และ จังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ปลูกมากที่สุดของประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ตลาดยังต้องนำเข้ากว่า 80,000 ตันต่อปี ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังประสบข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพการผลิต การจัดการแปลงปลูก และการดูแลหลังการเก็บเกี่ยว
กรมวิชาการเกษตรจึงพัฒนาเชียงรายให้เป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อสร้างแบบอย่างการผลิตกาแฟคุณภาพสูงครบวงจร และผลักดันให้กาแฟไทยลดการพึ่งพาการนำเข้า เพิ่มรายได้และสร้างโอกาสให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงอย่างมั่นคง และกำหนดให้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย เป็นศูนย์ต้นแบบการพัฒนากาแฟอะราบิกาแบบครบห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำ ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ การจัดการแปลงปลูก การป้องกันกำจัดศัตรูพืช การแปรรูป ไปจนถึงการคั่วกาแฟ พร้อมเชื่อมโยงกับการยกระดับมาตรฐานและการแปรรูปเชิงลึก เพื่อรองรับโครงการ “กาแฟ 1,000,000 ต้นบนพื้นที่สูง” ในระยะต่อไป
องค์ประกอบสำคัญของศูนย์ต้นแบบ
- พันธุ์กาแฟแนะนำของกรมวิชาการเกษตร: กวก.เชียงราย 1, กวก.เชียงราย 2, กวก.เชียงใหม่ 1
พร้อมการพัฒนาและขยาย กาแฟพันธุ์เกอิชา (Geisha/Gesha) ซึ่งเป็นพันธุ์อะราบิกาคุณภาพสูงในตลาดพิเศษ - การจัดการศัตรูพืช: ใช้ชีวภัณฑ์ Beauveria bassiana สายพันธุ์ DOA-B18 ควบคุมมอดเจาะผลกาแฟ ลดการใช้สารเคมีและคงคุณภาพเมล็ด
- นวัตกรรมสนับสนุน: แผ่นเทียบสีผลกาแฟเพื่อเก็บเกี่ยวในระยะสุกเหมาะสม เพิ่มคุณภาพและความสม่ำเสมอของเมล็ด
- หลังการเก็บเกี่ยว: โรงอบแห้งกาแฟกะลาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบการแปรรูป และโรงคั่วกาแฟต้นแบบ
- พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงเสริม: การส่งเสริมและขยายการปลูก มะคาดาเมีย เพื่อเพิ่มมูลค่าการผลิตและใช้ประโยชน์พื้นที่สูงอย่างคุ้มค่า
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเน้นย้ำว่า ศูนย์ฯ ต้องทำหน้าที่เป็น แหล่งถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกษตรกรเข้าถึงได้จริง ทั้งการขยายพันธุ์กาแฟเกอิชา และ มะคาเดเมีย สนับสนุนการผลิตคุณภาพสูงตามมาตรฐาน และต่อยอดด้วยการแปรรูปเชิงลึก โดยระบุว่า “เมื่อเกษตรกรนำองค์ความรู้ไปใช้ได้จริง ผลที่ต้องเกิดคือรายได้เพิ่ม คุณภาพเมล็ดดีขึ้น และการประกอบอาชีพบนพื้นที่สูงมีความยั่งยืนในระยะยาว”
กรมวิชาการเกษตรเตรียมเชื่อมโยงความร่วมมือกับภาคเอกชน สหกรณ์ และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อผลักดันให้ กาแฟไทยคุณภาพสูงก้าวสู่ตลาดสากล ลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับเกษตรกรบนพื้นที่สูงตามแนวทางพัฒนาเชิงพื้นที่และเชิงพืชเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม
















Users Today : 324
Views Today : 503
Who's Online : 2
