นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ติดตามงานภารกิจกรมวิชาการเกษตรในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หารือร่วมกับนางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง ดร.อารดา มาสริ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 (ผอ.สวพ. 5) และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ ณ ห้องประชุม พระพิรุณ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง


กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินโครงการสกัดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช เชื้อรา และการสนับสนุนพันธุ์พืช และปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ ปี 2567/2568 ในพื้นที่ภาคกลาง โดย สวพ. 5 ได้ดำเนินกิจกรรมสนับสนุนเกษตรกรผลิตก้อนเชื้อเห็ดเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ 8 จังหวัด คัดเลือกเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติจำนวน 212 ราย เพื่อรับก้อนเชื้อเห็ดภูฏาน ลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช. 1 ที่พัฒนาพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตรจำนวน 279,500 ก้อน จัดฝึกอบรมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 2 หลักสูตร ได้แก่
1) เทคโนโลยีการผลิตเห็ดเศรษฐกิจ
2) การแปรรูปสินค้าเห็ดเพิ่มมูลค่า สร้างโรงเรือนเพาะเห็ดแบบชั่วคราว 15 โรงเรือน ให้กับเกษตรกรพร้อมแจกก้อนเชื้อเห็ดภูฏาน ลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช. 1 โรงเรือนละ 2,000 ก้อน เพื่อใช้เป็นต้นแบบการผลิตเห็ดคุณภาพ
เป็นการเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่ ยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของเกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 ของกรมการข้าว ซึ่งมีการสนับสนุนปุ๋ยเคมี (สูตร 20-8-20 และ 25-7-14) ปุ๋ยอินทรีย์ (ของเหลว) โดยกรมวิชาการเกษตรมีบทบาทในการกำกับดูแลปุ๋ยและชีวภัณฑ์มีคุณภาพตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสวพ.5 รับผิดชอบในพื้นที่ภาคกลางครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด มีบทบาทหน้าที่ดังนี้
1. สุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ณ สถานที่ผลิตทุกล็อตการผลิต (ตรวจ 100%)
2. สุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยและชีวภัณฑ์ ณ จุดส่งมอบ (สุ่มตรวจบางส่วน)
3. ตรวจวิเคราะห์คุณภาพปุ๋ยในโครงการ
4. รายงานผลการตรวจสอบคุณภาพให้กรมการข้าว/ผู้ประกอบการทราบ
โดย สวพ.5 ได้เร่งดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยเคมีจากสถานที่ผลิต ตามแผนการผลิตที่กรมการข้าวแจ้งปัจจุบันมีการวิเคราะห์คุณภาพปุ๋ยเคมีและรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบเป็นลำดับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรายงานผลวิเคราะห์คุณภาพปุ๋ยเคมีตามแผนการผลิตได้ทันกับแผนส่งมอบปัจจัยการผลิตช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568


นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรมีการขับเคลื่อนโครงการสำรวจแหล่งปลูกส้มโอปลอดศัตรูพืช เพื่อการส่งออกส้มโอทั้งผล ไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยเงื่อนไขการส่งออกส้มโอทั้งผลไปสหภาพยุโรปต้องปฏิบัติตามมาตรการการนำเข้าพืชตระกูลส้มตามกฎระเบียบ EU regulation 2019/2027 ได้แก่
1) ปลอดจากใบและก้านผล
2) ปลอดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas citri pv. citri สาเหตุโรคแคงเกอร์
3) ปลอดจากเชื้อรา Pseudocercospora angolensis และ Phyllossticta citricarpa สาเหตุโรคใบจุด
4) ปลอดจากแมลงวันผลไม้
ซึ่ง สวพ.5 ได้ร่วมบูรณาการกับสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง และสำนักงานเกษตรจังหวัดอ่างทอง โดยสำรวจแหล่งปลูกส้มโอของเกษตรกรที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAP ของกลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอ ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง



นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรพร้อมขับเคลื่อน การดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด บรรลุตามเป้าหมายของแต่ละโครงการ โดยบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับการผลิตพืชของเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นการช่วยสร้างรายได้ ลดรายจ่าย มีความเป็นอยู่ที่มั่นคง เกิดความเข้มแข็งในชุมชนอย่างยั่งยืน