นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของไทยสร้างรายได้จากการส่งออกมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอ้อยรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และส่งออกน้ำตาลมากเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล อย่างไรก็ตาม การผลิตอ้อยในปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน มีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพแล้งและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อปริมาณอ้อยเข้าหีบ และการผลิตน้ำตาลของประเทศ


ดังนั้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว “พันธุ์อ้อย” ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต กรมวิชาการเกษตร จึงได้พัฒนาพันธุ์อ้อยให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ตามชนิดดิน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ปลูกอ้อยส่วนใหญ่ในเขตภาคเหนือและภาคกลาง รวมทั้งพื้นที่บางส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่าร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ปลูกอ้อยที่แม้จะมีความอุดมสมบูรณ์ของดินสูงกว่าดินทราย แต่มักเป็นด่าง ทำให้อ้อยเจริญเติบโตได้ไม่ดี มีระบบรากสั้น ถ้าฝนแล้งจะทำให้การแตกกอ และจำนวนหน่อน้อยผลผลิตต่ำ การไว้ตอไม่ดี โดยศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน ได้เริ่มดำเนินการผสมพันธุ์อ้อย และประเมินความพึงพอใจของเกษตรกรตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืช จนได้อ้อยพันธุ์ใหม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ใช้ชื่อว่า “อ้อยพันธุ์ กวก.นครสวรรค์ 2”




อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า “อ้อยพันธุ์ กวก.นครสวรรค์ 2” เป็นอ้อยโรงงานที่ให้ผลผลิตสูง ได้จากการผสมพันธุ์ระหว่างพันธุ์แม่ Q85 และพันธุ์พ่อ กวก. อู่ทอง 8 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี และนำมาคัดเลือกขั้นที่ 1 และ 2 โดยคัดเลือกแบบรายต้น ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ อ้อยพันธุ์ กวก.นครสวรรค์ 2 มีลักษณะเด่นให้ผลผลิตอ้อย 18.0 ตัน/ไร่ ให้ผลผลิตน้ำตาล 2.51 ตันซีซีเอส/ไร่ ให้ความหวาน 14.1 ซีซีเอส จากการสำรวจความพึงพอใจของเกษตรกรโดยให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยประเมินศักยภาพของพันธุ์และความพึงพอใจในลักษณะทางการเกษตรและผลผลิตของอ้อยพบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจอ้อยพันธุ์ กวก.นครสวรรค์ 2 ในด้านที่มีการงอก การเจริญเติบโตเร็ว ทรงกอตั้งตรง รวมทั้งยังให้ผลผลิตและความหวานสูง






สำหรับความพร้อมของพันธุ์โดยในปี 2567 ที่ผ่านมาได้ขยายพันธุ์อ้อยกวก.นครสวรรค์ 2 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ และศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรีพื้นที่แห่งละ 5 ไร่ ทำให้ได้ท่อนพันธุ์อ้อยประมาณ 100,000 ลำ สามารถนำไปปลูกขยายได้ประมาณ 100 ไร่ นอกจากนี้ เกษตรกรที่ได้เข้าร่วมประเมินพันธุ์ได้ขยายพันธุ์อ้อย กวก.นครสวรรค์ 2 ในพื้นที่ประมาณ อีก 100 ไร่ เกษตรกรและผู้ที่สนใจอ้อยพันธุ์กวก.นครสวรรค์ 2 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ โทรศัพท์ 0 5624 1019






Users Today : 1116
Views Today : 3189
Who's Online : 4