นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยการผลิตทางการเกษตร มุ่งปราบปัจจัยการผลิตที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการปกป้องผู้บริโภค และเกษตรกร รวมถึงการเข้มงวดการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร พร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

กรมวิชาการเกษตรได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร กลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคบ. เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตปุ๋ยเคมี ตามเบาะแสในพื้นที่ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี จากการตรวจสอบพบว่ามีการผลิตปุ๋ยเคมีสูตร 16-8-8 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตาม ม.12 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรจึงทำการเก็บตัวอย่างปุ๋ยเคมี จำนวน 1 รายการ เพื่อนำไปวิเคราะห์ และอายัดของกลางไว้ทั้งหมด เป็นปุ๋ยเคมีสูตร 16-8-8 จำนวน 40 กระสอบ ปริมาณ 2,000 กิโลกรัม และอุปกรณ์การผลิต คิดเป็นมูลค่าของกลางมากกว่า 605,600 บาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป




อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ อาทิเช่น ปุ๋ยเคมี สารป้องกันกำจัดโรค แมลง และวัชพืช การเลือกซื้อมีความสำคัญ เกษตรกรต้องซื้อสินค้าที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร จากร้านที่ได้รับอนุญาตจำหน่าย หรือร้านที่ได้ใบรับรอง Q-shop ก่อนเลือกซื้อ ต้องอ่านฉลาก ประโยชน์ วิธีใช้ วันที่ผลิต ไม่เกิน 2 ปี ภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพดี ไม่เก่า หรือเสื่อมสภาพ ซื้อในปริมาณที่พอเหมาะกับการใช้ ไม่เป็นสารต้องห้ามนำเข้า ห้ามผลิต หรือ จำหน่าย ซึ่ง “รมว. เกษตรฯ ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรปราบปรามพวกมิจฉาชีพที่ผลิต และขายปัจจัยการผลิตปลอมทั้งปุ๋ย วัตถุอันตราย หลอกขายเกษตรกร โดยมอบเป็นนโยบายเร่งด่วนให้ดำเนินการทันที เพื่อไม่ให้เกษตรกรโดนเอาเปรียบ พร้อมกับสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากเกษตรกรหรือผู้ที่ทราบเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 1174 เพื่อจะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรเข้าไปดำเนินการตรวจสอบต่อไป.